จากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา สำนักงานชลประทานที่ 1 ได้คาดหมายสถานการณ์ มีแนวโน้มที่จะเกิดฝนตกในพื้นที่ลุ่มน้ำปิงตอนบน ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 30 กันยายน 2567 ต่อเนื่องถึงวันที่ 2 ตุลาคม 2567 ในปริมาณปานกลางถึงหนักในบางพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำท่าในแม่น้ำปิงและแม่น้ำสาขามีแนวโน้มที่สูงขึ้นและปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลเพิ่มขึ้นจากเดิมจะทำให้ปริมาณน้ำไหลล้นข้ามอาคารระบายน้ำล้นฉุกเฉิน (Emergency Spillway) ในอัตราสูงถึง 150-200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่ไม่สามารถควบคุมได้ไหลลงสู่แม่น้ำปิงและส่งผลกระทบกับพื้นที่ด้านท้ายน้ำ
.
เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล มีระดับน้ำ +398.52 ม.(รทก.) ปริมาณน้ำ 298.282 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 112.56 ณ วันที่ 29 กันยายน 2567 เวลา 07.00 น. และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล ได้ดำเนินการระบายน้ำผ่านอาคารระบายน้ำล้น (Service Spillway) ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ตามแผนการระบายน้ำที่วางไว้ ซึ่งการระบายน้ำมีลักษณะเป็นแบบขั้นบันได โดยการเพิ่มปริมาณการระบายน้ำจนถึงอัตรา 78 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และจะใช้เวลาประมาณ 16-18 ชั่วโมง ปริมาณน้ำที่ระบายจะถึง สถานีวัดน้ำ P1 (สะพานนวรัฐ อำเภอเมืองเชียงใหม่) ซึ่งการระบายน้ำของเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ถึง ๑๗.00 น. ได้พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ประมาณ 6.12 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีปริมาณไหลเข้าเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ประมาณ 705,000 ลูกบาศก์เมตร โดยการระบายน้ำของเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลเป็นการระบายน้ำให้สัมพันธ์กับสถานีวัดน้ำ P1 (สะพานนวรัฐ อำเภอเมืองเชียงใหม่) เพื่อรักษาระดับน้ำไม่ให้มีผลกระทบต่อสถานีวัดน้ำ P1 (สะพานนวรัฐ อำเภอเมืองเชียงใหม่)
ประกาศ ณ วันที่ 29 กันยายน พ.ศ.2567 เวลา 18.00 น.
