จากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา สำนักงานชลประทานที่ ๑ ได้คาดหมายสถานการณ์ มีแนวโน้มที่จะเกิดฝนตกในพื้นที่ลุ่มน้ำปิงตอนบน ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ ๓๐ กันยายน ต่อเนื่องถึงวันที่ ๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๗ ในปริมาณปานกลางถึงหนักมากในบางพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำท่าในแม่น้ำปิงและแม่น้ำสาขามีแนวโน้มที่สูงขึ้นและปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลเพิ่มขึ้นจากเดิมและล้นข้ามอาคารระบายน้ำล้นฉุกเฉิน (Emergency Spillway) ในอัตราสูงถึง ๑๕๐-๒๐๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่ไม่สามารถควบคุมได้ไหลลงสู่แม่น้ำปิง และส่งผลกระทบกับเมืองเชียงใหม่และพื้นที่ตอนล่าง และจากการพิจารณาสถานีวัดน้ำในสถานีต่างๆ ในลำน้ำปิงมีปริมาณน้ำที่ลดลง ทำให้มีช่องว่างในการระบายน้ำจากเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลลงสู่ด้านท้ายน้ำ นั้น
.
วันอาทิตย์ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๗ เวลา ๐๗.๐๐ น. นายเฉลิมเกียรติ อินทกนก ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล พร้อมด้วย พร้อมด้วยนายธีรัตน์ พันธุประกิจ หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม นายพัชรพงษ์ สาเขตร์ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ ๓ นายวงศกร ขัดทะเสมา หัวหน้าฝ่ายช่างกล และเจ้าหน้าที่โครงการ ดำเนินการระบายน้ำผ่านอาคารระบายน้ำล้น (Service Spillway) ในอัตราประมาณ ๑๑๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะระบายน้ำจนถึงวันจันทร์ที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๗ เวลา ๑๗.๐๐ น. รวมระยะเวลา ๓๔ ชั่วโมง
.
เพื่อเป็นการเตรียมพื้นที่รองรับปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนในช่วงเวลาดังกล่าว โดยการระบายน้ำดังกล่าวจะไม่ให้มีผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายน้ำ
.
พร้อมได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่โครงการลงพื้นที่ตรวจสอบสถาณการณ์น้ำประจำจุดต่างๆ ดังนี้ จุดที่ ๑ สะพานบ้านดง-บ้านใหม่ จุดที่ ๒ ลำน้ำงัด กม.๐+๓๐๐ จุดที่ ๓ สะพานบ้านดง และจุดที่ ๔ จุดบรรจบลำน้ำงัดกับลำน้ำปิง เพื่อสังเกตุปริมาณน้ำว่ามีผลกระทบต่อพื้นที่หรือมีปริมาณน้ำล้นตลิ่ง เพื่อปรับลดปริมาณการระบายน้ำไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ดังกล่าวรวมไปถึงสองฝั่งลำน้ำงัดและแม่น้ำปิง อีกทั้งยังให้เฝ้าติดตามสถาณการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด