โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล  เริ่มระบายน้ำจากเขื่อนแม่งัดผ่านโรงไฟฟ้า เตรียมพื้นที่รับน้ำฝนรอบใหม่

โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล เริ่มระบายน้ำจากเขื่อนแม่งัดผ่านโรงไฟฟ้า เตรียมพื้นที่รับน้ำฝนรอบใหม่

โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล เริ่มระบายน้ำจากเขื่อนแม่งัดผ่านโรงไฟฟ้า เตรียมพื้นที่รับน้ำฝนรอบใหม่

วันที่ 25 ก.ค. 2568 นายอัธยา อรรรณพเพ็ชร ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ มอบหมายให้นายธีรัตน์ พันธุประกิจ หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม เป็นผู้แทน ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล และการบริหารจัดการน้ำช่วงหลังการเกิดพายุวิภา เผยว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่งัดฯ เมื่อเวลา 07.00 น. (วันที่ 25 ก.ค. 2568) มีประมาณ 200 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 76% ของความจุ ช่วงที่ผ่านมาจากอิทธิพลของพายุวิภา ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนราว 37 ล้าน ลบ.ม. ขณะนี้โครงการฯ ได้มีการประสานงานกับ ส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 1 ในการวางแผนที่จะระบายน้ำต่อจากนี้อย่างต่อเนื่อง โดยจะระบายน้ำออกจากเขื่อนราว 20 ลบ.ม./วินาที

เมื่อเวลา 13.00 น. ได้มีการระบายน้ำผ่านโรงไฟฟ้าเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ในอัตรา 20 ลบ.ม./วินาที ด้วยวิธีการระบายน้ำแบบขั้นบันได โดยจะเพิ่มระดับการระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สัมพันธ์กับปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อน

นายธีรัตน์ฯ กล่าวต่อว่า สำหรับการเพิ่มปริมาณการระบายน้ำ ซึ่งเขื่อนจะระบายอยู่ในช่วง 20-40 ลบ.ม./วินาที การเพิ่มปริมาณก็จะมีการตรวจสอบปริมาณน้ำในแม่น้ำงัด แม่น้ำปิง ที่จุดวัด P.75 โดยจะใช้อัตราการไหลของน้ำในแม่ปิงที่ P.75 เป็นตัวชี้วัด หากมีระดับที่จะระบายเพิ่มได้ก็จะเพิ่มการระบายเป็น 40 ลบ.ม./วินาที โดยจะทำการตรวจสอบปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงทุกวัน

สำหรับการระบายน้ำของเขื่อนแม่งัดฯ จะมีการระบายได้ 2 ช่องทาง ช่องทางแรกคือ การระบายน้ำผ่านโรงผลิตไฟฟ้าในอัตรา 20 ลบ.ม./วินาที อีกช่องทางคือ ระบายผ่าน River Outlet ซึ่งระบายได้ในอัตรา 20 ลบ.ม./วินาที หากจะเพิ่มการระบายเป็น 40 ลบ.ม./วินาที ก็จะระบายเพิ่มในช่องทาง River Outlet โดยระบายลงสู่ลำน้ำแม่งัด ซึ่งจะไหลลงสู่แม่น้ำปิงที่สบงัดก่อนถึงจุดวัด P.75 ก็ยังจะใช้จุดวัดน้ำ P.75 เป็นตัวชี้วัดในการบริหารการระบายน้ำของเขื่อนแม่งัดฯ

เมื่อพิจารณาปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน และปริมาณน้ำมีอยู่เขื่อนแม่งัดฯ ณ ปัจจุบัน และหากมีการระบายตามแผนในปริมาณระบายได้สูงสุดที่ 40 ลบ.ม./วินาที คาดว่าสิ้นเดือนกรกฎาคม 2568 เขื่อนแม่งัดฯ จะสามารถระบายน้ำได้ราว 20 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำกักเก็บที่ระดับ 200 ล้าน ลบ.ม. ในช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2568 คาดว่าจะเหลืออยู่ราว 180 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 67 % จะทำให้มีพื้นที่การรับน้ำของเขื่อนเพิ่ม เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนที่จะเข้ามาในช่วงต่อไป